ศิริภา ได้ออกมาแถลงว่าสาเหตุที่เธอแชร์ภาพของ ชวนกดกาแฟ จนกลายเป็นมุกขำขัน เพราะเธอต้องการแบ่งปันมุมเป็นกันเองของประธานสภา ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เธอได้โพสต์ภาพของนาย ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กดกาแฟดื่มเองที่รัฐสภา พร้อมระบุข้อความว่า “อย่าแปลกใจหากเจอประธานรัฐสภายืนชงกาแฟอยู่ในครัวที่สภานั้น เป็นการโพสต์ด้วยเจตนาที่อยากแบ่งปันมุมความเป็นกันเองของประธานรัฐสภา เพราะโดยปกติเราจะไม่ค่อยเห็นผู้บริหารคนไหนเดินมาชงกาแฟดื่มเอง”
ซึ่งขณะที่โพสต์ก็มีผู้ติดตามแสดงความเห็นชื่นชมถึงความเป็นกันเองของประธานรัฐสภา
แต่เมื่อมีคนรีทวีตและชื่นชมเป็นจำนวนมาก ทำให้ฝ่ายการเมืองอีกฝ่ายเกิดความไม่พอใจ และร่วมกันเข้ามาต่อว่าประธานรัฐสภาด้วยถ้อยคำไม่สุภาพและพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเกลียดชังในสังคม ทำให้ต้องตัดสินใจลบโพสต์ดังกล่าวไป ศิริภา กล่าวว่า เธอมีเจตนาการใช้สื่อเพื่อสื่อสารที่ต่างกัน และหากสังเกตวิธีการรีทวีต ไม่ว่าจะข้อความหรือรูปภาพและช่วงเวลาในการโพสต์ ก็จะเห็นการทำงานอย่างเป็นขบวนการของคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะในเรื่องการให้ความเคารพกับความเห็นต่าง
ซึ่งถือเป็นเรื่องพื้นฐานของประชาธิปไตยที่ควรนำไปปฏิบัติ แต่พบว่ามีหลายครั้งที่คนกลุ่มนี้มักใช้ความคิดของตนเป็นใหญ่ ออกมาด่าทออีกฝ่ายที่มีความเห็นแตกต่างไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณ และขอตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ โดยภาพของนาย ชวน ที่กดกาแฟอยู่นั้นถูกผู้ใช้อินเตอร์เน็ตนำไปตัดต่อ จนกลายเป็นมุกขำขันและถูกนำไปแชร์ต่อในสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งนาย ราเมศ รัตนเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา ประกาศว่าเขาจะฟ้องคนตัดต่อภาพดังกล่าว
พร้อมทั้งจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ เพื่อรองรับการทดสอบรถยนต์หรือชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในส่วนราชการ ส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้เกิดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และรถบัสไฟฟ้า ภายในประเทศ และการกำหนดอัตราค่าไฟคงที่ทุกช่วงเวลาสำหรับการชาร์ตยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งจัดทำแผนการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังมีมาตรการในภาคเกษตรอุตสาหกรรม ด้วยการกำหนดนโยบายลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ : อ้อยสด เป็นร้อยละ 20:80 ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 โดยมีมาตรการกำหนดราคาอ้อยสดกับราคาอ้อยไฟไหม้ที่แตกต่างกัน เพื่อให้ชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยไฟไหม้หันกลับมาตัดอ้อยสด จัดซื้อรถสางใบอ้อย เพื่อให้ชาวไร่อ้อยรายเล็กได้ยืมไปใช้ และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐในการสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร
โดยโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจรปีงบประมาณ 2562-2564 วงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวมระยะเวลา 3 ปี เป็นจำนวน 6,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเพื่อการพัฒนาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย จัดซื้อรถตัดอ้อย รถคีบอ้อย รถแทรกเตอร์ รถบรรทุกอ้อย และเครื่องจักรกลการเกษตรอื่น ๆ
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปิดท้ายไว้ว่า “กระทรวงฯ มีการตรวจสอบ และติดตามสถานการณ์โรงงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่สามารถก่อให้เกิด ฝุ่นละออง PM2.5 ทั่วประเทศ โดยเฉพาะโรงงานที่มีการใช้พลังงานในหม้อน้ำ หม้อต้ม ที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อนและอุปกรณ์การเผาไหม้อื่นๆ ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรม
ทนายอานนท์ คว้ารางวัล Gwangju Prize for Human Rights
เมื่อวันที่ 14 มกราคม เว็ปไซต์ 518 ของ มูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก รายงานว่า ทนาย อานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย ได้คว้ารางวัลสิทธิมนุษยชนกวางจูประจำปี 2564 (Gwangju Prize for Human Rights) รางวัลสิทธิมนุษยชนจากประเทศเกาหลีใต้
โดยคณะกรรมการ ได้ประกาศเกียรติคุณของนายอานนท์ ที่ได้รับรางวัลประจำปี 2564 ว่า นับตั้งแต่ปี 2541 นายอานนท์ได้เริ่มต้นอาชีพทำงานด้านกฎหมาย ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เคลื่อนไหวในเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนโดยไม่รับค่าตอบแทน
พร้อมยกว่า ทนาย อานนท์ ยังได้ต่อสู้เพื่อปกป้องประชาชนที่ถูกตั้งข้อหา ม.112 รวมถึงการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและทางการเมืองที่ถูกดำเนินคดีโดยศาลทหารฯ
ซึ่งทางคณะกรรมการยังได้พูดถึงอีกว่า ทนาย อานนท์ ได้ถูกจับกุมหลายครั้ง เนื่องจากการเรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน ส่งผลให้ถูกจับกุมหลายครั้ง ทั้งนี้การจับกุมไม่ได้หยุดยั้งให้ทนาย อานนท์ ออกมาต่อสู้และยืนหยัดในข้อเรียกร้อง
รางวัลสิทธิมนุษยชนกวางจู เป็นรางวัลที่ “มูลนิธิ 18 พฤษภารำลึก” องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเกาหลีใต้ มอบให้แก่นักต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยทั่วโลก เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ทางการเมืองของชาวเกาหลีใต้ที่ออกมาต่อต้านการปกครองโดยเผด็จการทหาร เมื่อพฤษภาคม ปี 2523
ทนายอานนท์ นับเป็นคนไทยคนที่ 3 ต่อจากนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้รับรางวัลนี้ ในปี 2549 และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ‘ไผ่ ดาวดิน’ ได้รับรางวัลเมื่อปี 2560
แนะนำ : รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า | รีวิวอาหารญี่ปุ่น| รีวิวที่เที่ยว | ดาราเอวี